จะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องการรักษาหลุมสิวให้อ่านกัน โชกโชนบอกเลย!!!
วันนี้ย้อนกลับไปดูภาพหน้าหลุมสิวที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2555 แล้วก็ต้องตกใจว่าเฮ้ย!!!! ก่อนหน้านี้เราเป็นหลุมสิวขนาดนี้เลยเหรอ คือมันลืมไปแล้วละก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เอาให้คนอื่นดูยังตกใจว่าหายไปเยอะมากคือเราก็รักษาหลุมสิวที่เราเป็นมาตลอดแต่ก็รักษาเองนะครับเคยครั้งนึงที่ไปทำ subcision กับหมอเพราะที่เห็นในรูปว่าจะมีหลุมที่เป็นแอ่งลึกอยู่หลายจุดนอกนั้นก็รักษาเองมาตลอดสิ่งที่เคยทำมา
1.ไปให้ช่างสักเอาเข็มสักหน้า
2.Dermaroller
3.Dermapen
4.ลองเอาหินขัดเท้ามาถูหน้าตัวเอง
5.เครื่อง derminator เป็นเครื่องคล้าย dermapen แต่มอเตอร์จะแรงกว่ามากทำให้เข็มไม่แกว่งพอเข็มไม่แกว่งก็จะทำให้ผิวไม่เป็นแผลหลังทำหน้าก็ไม่ต้องพักนานสามารถออกไปใช้ชีวิตปกติได้เลย (มันไม่มีขายที่เมืองไทยและสั่งเข้ามาไม่ได้ แถมเครื่องแพงมาก ใช้เป็น dermaroller กับ Dermapen ก็ได้)
ร่วมกับการทายากลุ่มที่เป็นกรดวิตามินเอ (ช่วยผลัดผิวด้านบนออก) กับ super cop (ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยลดการผลิตโปรตีน TGF bata-1 (หนังที่ผลิตมาปิดปากหลุม) ) มันก็อาจจะไม่หาย 100% นะแต่ได้เท่านี้เราก็โอเคละเพราะถ้าไม่มาจ้องใกล้ๆก็จะไม่ค่อยเห็นละ
อย่างที่เคยเขียนเรื่องหลุมสิวไม่ได้มีเลเซอร์อย่างเดียวที่ช่วยได้ https://pantip.com/topic/37455782
หลักการของมันก็คือเราทำวิธีไหนก็ได้ให้หนังที่ปิดปากหลุมมันถูกจัดการออกไป (อันนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยและมันคือสิ่งที่ยาก) และกระตุ้นให้การสร้างเนื้อใหม่ขึ้นมา ครีมที่ช่วยเรื่องริ้วรอยถึงทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้ กลับกันเลเซอร์หรือการรักษาของหมอที่ช่วยเรื่องหลุมสิวก็ช่วยให้ผิวตึงกระชับขึ้นด้วยเพราะเป้าหมายเดียวกันคือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
คำว่า No pain no gain คงใช้กับเรื่องนี้ได้อ่ะ
อันนี้เป็นรูปปัจจุบันที่ทา cushion หลุมสิวก็จะไม่ค่อยเห็นละล่ะ อวดหน่อยกล้าอวดละ!!!!
วิธีเลือกผลิตภัณฑ์รักษาหลุมสิว คลิก!!!!
รีวิวจากลูกค้าท่านอื่น คลิก!!!!
สอบถามเจ้าหน้าที่ คลิก!!!!
ร่วมกลุ่มลูกค้าที่ใช้ของเรา คลิก!!!!