คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ Copper peptides จาก Dr.Loren Pickart

##ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล##

เชื่อว่าพวกเราที่กำลังอ่านบทความนี้น่าจะเข้าใจว่าแผลเป็น หลุมสิว แผลที่เกิดจากสิวนั้นเป็นเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว แต่มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงเพราะถ้าเป็นผิวที่ตายแล้ว ร่างกายเราจะขับออกไปตามกลไกของร่างกาย อันที่จริงแผลเป็นที่เกิดขึ้นมันเกิดจากการบิดของผิว หรือการเปลี่ยนรูปของมันต่างหาก

เมื่อเกิดปัญหาขึ้นที่ผิวหนังไม่ว่าจะเป็น สิว หลุมสิว รอยดำ ปัญหาเหล่านี้มันจะถูกกลบทับด้วยผิวปกติอีกทีหนึ่ง นั่นจึงเป็นเหตุที่เราสามารถใช้กรด AHA, Copper peptide, การขัดผิว หรือแม้กระทั่งกรดวิตามินเอแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะมันจะผลัดเอาผิวที่มีปัญหานั้นให้หลุดออกไป

ปัญหาอีกอย่างที่เราอาจจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าคือ ผิวเราจะสร้างเมลานินขึ้นมาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด โดยจะเริ่มก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (เราสามารถมองสิ่งเหล่านี้ได้จากรังสีอินฟราเรท) อย่างที่หลายคนรู้สึกว่าทำไมหน้าตัวเองหมองคล้ำขึ้น สามารถดูได้จากรูปข้างล่างนี้

ผิวหน้าที่เริ่มถูกแดดซ้ายเป็นผิวที่มองด้วยตาเปล่า ขวาคือการมองผ่านเครื่อง UV

ผิวของเด็กที่ถูกแดดมองด้วยตาเปล่าอาจจะเห็นไม่มาก แต่ผ่านกล้อง UV จะเห็นเหมือนภาพด้านขวา

เราสามารถใช้ AHA, การขัดผิว ร่วมกับ copperpeptide เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้ได้
Hydroxy acids หรือ AHA และวิธีการขัดผิวสามารถขจัดผิวบริเวณที่มีปัญหาออกไปอย่างช้าๆ ส่วน Copper peptides ก็จะช่วยสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรง สดใสขึ้นมา 

การจัดการแผลเป็นด้วย Copper peptide จะช่วยให้แผลเป็นดีขึ้นทีละน้อย หากเราใช้วิธีการที่แรงเกินไปด้วยความใจร้อน แผลเป็นบรเวณนั้นก็อาจเป็นรูลึกขึ้น ส่วนวิธีการไหนที่เบาเกินไปก็จะไม่เห็นผล หลายคนที่ใช้ copper peptide ร่วมกับ AHA แล้วอาจรู้สึกว่าหลุมสิวมันดูชัดขึ้น นั่นเพราะอย่างที่กล่าวไว้ตอนแรกว่า หลุมสิวหรือแผลเป็นนี้จะถูกปกคลุมไว้ด้วยผิวปกติหรือที่เราเรียกกันว่าพังผืด การที่เราผลัดเอาผิวส่วนนี้ออกจึงทำให้แผลเป็นหรือหลุมนั้นอาจดูแย่ลงในตอนแรก การผลัดเซลล์ผิวร่วมกับการใช้ copper peptide จะทำให้ผิวดูดีขึ้นอย่างช้าๆ

เรายังพบอีกว่าการใช้ AHA ในความเข้มข้นระดับปานกลางแล้วตามด้วย copper peptide จะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้นและลดการระคายเคืองจากการใช้ AHA ได้

วิธีการที่เรารู้สึกว่าได้ผลคือใช้ผลิตภัณฑ์ copper peptide ในตอนเช้า และใช้ AHA ในตอนกลางคืน แน่นอน AHA และ copper peptide ที่แรงขึ้นก็จะช่วยให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่ามันจะมาพร้อมกับความระคายเคือง มีเทคนิคจากบางคนที่ใช้เรตินเอร่วมกับ AHA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการกับพังผืดแผลเป็นให้หลุดออกเร็วขึ้น

มีหลายคนที่เป็นแผลเป็นหนักๆใช้ผลิตภัณฑ์วันละ 4 ครั้ง แล้วก็ได้ผลดีซะด้วยโดยใช้ AHA ตอน 8 โมงเช้า copper peptide ตอนบ่าย ใช้ AHA อีกครั้งตอน 5 โมงเย็นและ copper peptide อีกครั้งก่อนนอน คุณน่าจะเห็นความแตกต่างหลังจากผ่านไป 1 เดือน แต่พวกแผลเป็นที่นานแล้วหรือ รอยแตกลายและคีรอยด์อาจจะต้องใช้เวลาถึง 6 ถึง 8 เดือน

คุณใจร้อนกับมันไม่ได้หรอกเพราะคุณก็น่าจะรู้ว่าแผลเป็นมันหายยาก