รีวิวและเทคนิคการใช้ CP Serum จากต่างประเทศ

##ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล##

รวบรวมรีวิวและเทคนิคการใช้ CP Serum จากเวบรีวิวที่เป็นกลางของต่างประเทศ

http://www.makeupalley.com/product/showreview.asp?ItemID=4437

มานั่งหาผลิตภัณฑ์นี้ที่ MUA และก็เจอด้วย เยี่ยมมากเลย ใช้มาประมาณปีนึงแล้ว มีอยู่สองเรื่องที่ไม่ชอบใน Copper Peptide อย่างแรกก็คือกลิ่น อย่างที่สองก็คือ มันจะมีอาการคันยุบยิบนิดหน่อยเวลาที่ใช้เยอะไป นั่นแหละ แต่ก็ข้ามๆสองเรื่องที่ว่านี้ไปเพราะผลที่ได้เลิศมาก ฉันจะใช้ในปริมาณน้อยมากเวลาทาที่หน้า หลีกเลี่ยงที่จะทาใกล้ๆตา เพราะได้ยินมาว่า มันจะแสบถ้าทาที่ผิวบอบบางใกล้ๆตา ฉันเอามาทาที่หน้าอกด้วย สำหรับฉันแล้วนี่เป็นการทดสอบผลิตภัณฑ์เลยทีเดียว ผิวหน้าฉันดีขึ้นจริงๆ Super cp ช่วยทำให้ผิวกระชับ ผิวย่นๆที่หน้าอกสร้างความรำคาญใจให้ฉันอยู่พักนึง ฉันใช้เซรั่มตัวนี้ทาเป็นประจำ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แค่ไม่กี่สัปดาห์ ก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ ผิวกระชับขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ดีขึ้นจากหลายปีที่ผ่านมา แนะนำเลยค่ะผลิตภัณฑ์นี้ เริ่มด้วยตัวที่อ่อนโยนก่อน พอหมดขวดแรกแล้วก็ค่อยขยับเป็น Super CP นะคะ

 


 

 

มันก็แล้วแต่นะ บางคนก็ชอบบางคนก็ไม่

สำหรับฉันมันเวิร์คล่ะ ไม่ได้ดราม่า แต่เห็นได้ชัดเลยว่าผิวเนียนขึ้น นุ่มขึ้น พอลองหยุดใช้ ผิวก็กลับไปเหมือนเดิม แต่ก็กลับมาใช้ต่ออีก และจะใช้ต่อไป … จาก บาฮาม่าค่ะ

 


 

นี่เป็นครั้งแรกในการรีวิวที่ MUA แม้ว่าจะใช้ตามคอมเม้นต์คนอื่นๆมานานเป็นปีแล้ว เมื่อ 6 เดือนก่อน ฉันต้องมานั่งเลือกว่าจะใช้อะไรระหว่าง GHK กับ CPserum ทุกเช้าเลย แล้วตามด้วย Squalene ของ Skin biology นี่แหละ หลังจากนั้นก็จะใช้ Retinol serum ของ Paula’s choice ตอนกลางคืน แล้วก็จะใช้ AHA serum ของ Paula’s choice อาทิตย์ละครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิว ตอนนี้ฉันอายุ 33 บอกได้เลยว่าผิวฉันดีมากๆ กระชับ เปล่งปลั่ง เนียน ดูสุขภาพดี น่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่ใช้ CP serum กับ retinol serum พร้อมๆกันตอนนั้น มันก็ยากที่จะบอกได้แน่ชัดว่าตัวไหนที่ทำให้ผิวสวยงามแบบนี้ ฉันยังไม่เจออาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ Copper peptide นะ แต่ฉันก็ใช้อย่างระมัดระวัง เริ่มจากใช้น้อยๆ ค่อยๆเพิ่มปริมาณการใช้อย่างช้าๆ ใช้นิดเดียวเองตอนเช้า แต่บอกเลยว่าคอมเม้นต์ด้านลบที่อ่านๆเจอมาก็ทำให้จิตตกเหมือนกัน ดูเหมือนว่าผลที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนตัวแล้วฉันไม่ปรับไปใช้ Super cp เพราะคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับผิวฉัน แม้บางทีจะรู้สึกว่าอยากจะลองเผื่อว่าจะดีขึ้นกว่าเดิมก็เถอะ ก็ไม่รู้ว่าคอมเม้นต์ฉันจะมีประโยชน์ในการพิจารณาผลิตภัณฑ์นี้บ้างรึเปล่านะ – แต่ผิวฉันดีขึ้น ไม่มีปัญหาอะไร นั่นคือสิ่งที่พอจะสรุปได้ อย่างไรก็ดี ฉันให้คะแนน 4 เต็ม 5 เพราะเหมือนว่า CP serum จะเป็นตัวที่ทำให้ผิวโอเคขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะมากขนาดนี้ถ้าฉันหยุดใช้ retinol serum

 


 

 

ฉันเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ร่วมกับ exfol serum ประมาณ 4 สัปดาห์ที่แล้ว โดยใช้วันเว้นวัน เป็นเวลา 10 วัน แล้วเปลี่ยนเป็นใช้ทุก 2 วัน ใช้โดยไม่ผสมน้ำให้เจือจางเลย แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีอาการระคายเคืองและแดง โอ้วว แต่ฉันก็ระวังสุดๆแล้วนะ เพราะอ่านรีวิวเจอผู้หญิงที่บอกว่าใช้แล้วหน้าแหกไปเลย จากนั้นก็เลยใช้ CP serum ครั้งละ 5 หยดผสมน้ำกลั่น 3 หยด ทุกวัน ตอนนี้ก็เข้ามาสัปดาห์ที่ 4 แล้ว รู้สึกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง เข้าใจว่าเป็นเพราะ exfol serum ไม่ก็เป็นเพราะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ใช้ Retin-A กับวิตามินซี หน้าแห้งลง และผิวก็ดูดีที่สุดในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฉันอายุ 37 มีริ้วรอยบางๆ และจุดด่างดำ ตาก็เริ่มมีรอยย่นจากการใช้ Retin-A ที่ใกล้ตา คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นไปตลอด แต่ประมาณ 3 สัปดาห์ผ่านไปผิวที่รอบดวงตาก็ค่อยๆดีขึ้น ผิวเปล่งประกาย และค่อยๆมีการฟื้นฟู สังเกตเห็นได้จากบริเวณโหนกแก้มที่เคยเป็นสิว ผิวดูเนียนขึ้นกว่าที่เคยเป็น ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี รู้แต่ว่าผลิตภัณฑ์นี้มันออกฤทธิ์ ไม่ใช่แค่เป็นของที่ดูดี กลิ่นหอม แต่ไม่ออกฤทธิ์อะไรเลย เอาให้น้องสาวใช้ไม่กี่เดือน เห็นผลเลย ฉันจะมาอัพเดทให้ดูกันอีก เพราะฉันไปซื้อ squalene และ hair signal มาใช้ ฉันลองใช้ squalene ทาที่รอบดวงตาก่อน แล้วค่อยเจือจาง CP serum ทับอีกที โอเคเลย ไม่มีปัญหาอะไร ฉันว่าการจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องเริ่มจากใช้น้อยๆในช่วงแรก ซึ่งมันยากสำหรับฉัน ฉันใช้แบบผสมน้ำทุกวัน แล้วเปลี่ยนมาใช้แบบไม่ผสมน้ำ จากนั้นก็เพิ่มด้วยการทา squalene ทับลงไป ก็จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้มากและลึกขึ้น ตอนนี้รักผิวตัวเองมากเลย แฟนทักว่าท้องรึป่าว … มีความสุขจัง!

 


 

ฉันใช้ CP serum มาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยเริ่มใช้กับผิวที่ท้อง เพื่อกำจัดรอยแตกลาย จากนั้นก็ใช้ที่หน้า คอ และหน้าอก ข้อเสียก็คือบางทีที่ใช้แล้วจะมีอาการคันยุบยิบที่ผิว แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันก็จะหาย และไม่กลับมาเป็นอีก การใช้ peptide นี้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวกับรอยแตกลายนั้นให้ผลดีมากๆ รอยแตกลายของฉันมันลึกมาก 7 ปีแล้วด้วย ตอนที่เริ่มใช้รู้สึกได้ว่ามันนุ่มลงมาก บอกได้เลยว่ามันลดลง 75% ตอนนี้เพิ่มการใช้เข็มกลิ้งร่วมด้วย รอยแตกลายก็ยิ่งจางลงไปอีก สังเกตได้ว่าเนื้อผิวหน้าดีขึ้น กระชับขึ้น โดยไม่มีผลข้างเคียงเลย ทาร่วมกับ Retin-A อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ฉันจะใช้ CP serum ตลอดไป มันช่วยทำให้รอยแตกลายดีขึ้น และสภาพเนื้อผิวโดยรวมดีขึ้น

 


 

 

โอเค … เริ่มตรงไหนดี … ฉันไม่ได้ใช้ copper peptide ทั่วหน้า เพราะต้องเก็บไว้ดูความแตกต่างในการรักษาแผลเป็น แต่ใช้ lacsal serum ทาทั่วหน้าประมาณ 2 ปีแล้ว ยังไม่มีตัวไหนที่ดีเทียบเท่าตัวนี้เลย เป็นผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่ดีที่สุดที่เคยใช้มา แต่สำหรับ copper peptide นั้นจะใช้เฉพาะแค่ตรงที่เป็นแผล จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วมันยังไง และควรใช้เพื่อให้ผิวค่อยๆสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ฉันไม่ชอบหน้าตัวเองเวลาที่ทา CP serum ทั่วหน้า เหมือนมันมีผลกับตาฉัน ส่วนนึงน่าจะเพราะฉันเริ่มใช้จากเยอะๆมาก่อนเพราะเป็นคนใจร้อน หลังจากรอยแผลเป็นหายแล้ว ก็ไม่ได้ใช้อยู่พักใหญ่ และตอนนี้่ก็เริ่มกลับมาใช้อีกครั้ง เพราะมันให้ผลแตกต่างจริงๆ ฉันเป็นรอยแผลสิวแบบหลุมกว้างลึกด้วย เกิดจากการเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แต่ไม่ทันได้สังเกตว่ามันดีขึ้นมากแค่ไหนตอนที่ใช้ copper peptide คราวหลังจะมาอัพเดทรูปก่อน-หลังให้ดูละกัน นี่จะเป็นวิธีที่ทำให้เห็นความแตกต่างได้ ว่าจริงหรือแค่คิดไปเอง คงจะอีกสักพักกว่าจะเห็นความแตกต่างนะ แต่จะพยายามที่สุดในการอัพเดทรูปให้ได้ชมกันในเพจของฉัน

 


 

 

 

 

ฉันใช้ผลิตภัณฑ์ CP serum ของ Skin biology มานานแล้ว (ประมาณ 7 ปี) เป็นตัวโปรดของฉัน ก็ไม่ได้ใช้ตลอดนะ แต่จะต้องมีไว้เลย ฉันว่ามันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่จะเหมาะกับทุกคน

อย่างแรกมาดูเรื่องพื้นๆก่อน … ราคานั้นเหมาะสม ไม่แพงเลยถ้าพิจารณาจากระยะเวลาและปริมาณการใช้ต่อหนึ่งขวด … บรรจุภัณฑ์ก็เป็นอะไรที่เรียกว่า เพื่อการใช้งานจริงๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับฉัน ขวดแบบหยดนั้นดีมาก ในการที่จะกะให้พอดีกับความต้องการที่จะใช้ ฉันไม่ค่อยชอบที่จะจ่ายแพงๆเพื่อซื้อขวดหรูหรา

ข้อสอง บริษัทอื่นๆ ก็ใช้ copper peptide กัน … ดังนั้น ที่ใครๆชอบบอกว่ามันเป็นของ Dr. Pickart เท่านั้น – – ไม่ใช่นะ เช่น

http://my.clevelandclinic.org

และ – เรื่องสีของผลิตภัณฑ์ – copper peptide ไม่ใช้สีสังเคราะห์ ผิวของฉันไม่ถูกกับ FDC หรือ DC ซึ่งเป็นสีในเครื่องสำอาง (ปกติฉันจะสวมถุงมือเวลาที่ต้องผสมสีเพื่อแต่งหน้าเค้ก) ดังนั้นถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ฉันก็จะรู้ทันทีเลย

และสีมันจะเปลี่ยนไปเรื่อย ซึ่ง…ถ้าเป็นสีจาก FDC / DC มันจะไม่เปลี่ยนนะ กลิ่นก็แปลกๆ ก็นั่นแหละ เพราะมันคือ copper peptide สารประกอบตัวหลักๆในเครื่องสำอาง ไม่ใช่จะหน้าตาและกลิ่นหอมกันหมดนะ … เอาจริงๆนะ คงไม่มีนักการตลาดคนไหนอยากทำสีเซรั่มให้เขียวยังกะสีสาหร่ายทะเลแบบนี้หรอก

ประสบการณ์ส่วนตัว : ฉันว่า copper peptide ดูจะต้องการใช้ควบคู่กับพวกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวนะ ไม่ว่าจะเป็น BHA, AHA หรือ Retin-A ฉันเคยใช้ Retin-A อยู่หลายปี ใช้ทุกวันเลย โดยจะทา CP serum บางๆก่อน แล้วค่อยทา Retin-A ผลที่ได้จากการใช้สองตัวนี้ร่วมกัน ดูจะเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กัน แถมยังช่วยลดการระคายเคืองจาก Retin-A ได้ด้วย ตอนที่ใช้ CP serum เดี่ยวๆก็ไม่รู้สึกว่าจะเป็นยังไงเท่าไหร่ และตอนที่ใช้ Retin-A เดี่ยวๆก็ระคายเคืองมากกว่า พอใช้ร่วมกันแล้วเยี่ยมมาก เพื่อนฉันคนนึงก็ใช้ CP serum กับ AHA นางรักเลย

*ฉันว่าที่คนไม่ชอบ CP ก็เพราะไปใช้เดี่ยวๆโดยที่ไม่ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว และผิวหลายคนก็ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวไม่เหมาะกับตัวเอง ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวไม่ได้ CP serum ก็อาจไม่เหมาะกับคุณ

*อันที่จริงฉันว่าผิวตัวเองไม่เหมาะกับ CP ที่แรงๆ และถ้าเป็นแบบครีมก็ทำให้เป็นสิวอีก สำหรับฉัน CP serum นั้นเยี่ยมที่สุด และฉันก็ต้องกลับมาใช้อยู่เรื่อยๆ super cp serum เป็นตัวที่แรงที่สุดที่ฉันรับได้ แต่ก็ชอบใช้แค่ CP serum ตัวที่แรงขึ้นก็มักทำให้ฉันคันมาก ซึ่งฉันไม่ชอบ คนส่วนใหญ่ชอบใช้กันทีละเยอะๆ แรงๆ … ควรเริ่มด้วย CP serum และอาจเจือจางมันในการใช้ช่วงแรกๆ การใช้ตัวที่แรงเกินไปไม่เหมาะกับการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้

 


 

 

 

บอกได้เลยว่าเห็นความกระชับของผิวได้จากการใช้แค่เพียงไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นแล้วฉันก็จะซื้อใช้ต่อ แต่ส่วนตัวไม่มีปัญหาแผลสิว ก็คงจะให้ความเห็นเรื่องนี้ไม่ได้

สิ่งที่ต้องรู้ไว้ 2 อย่าง : เริ่มใช้แต่น้อย ฉันใช้วันละครั้ง แค่ไม่เกิน 6 หยดต่อการใช้ทั่วหน้าและคอ บางคนเริ่มใช้เยอะไป ก็เลยทำให้ระคายเคือง เช่นถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ของ Skin biology ตัว super cp หรือ super cop ก็ไม่ควรใช้เยอะ ควรเริ่มใช้ซัก 2-3 หยด อาจจะเอาน้ำผสมหน่อยให้จางลง และถ้าอยากใช้แบบเข้มข้นขึ้น ก็ขยับเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นขึ้น แต่ส่วนตัวไม่เห็นว่าจำเป็นต้องใช้ตัวเข้มข้น

อีกอย่างหลักสำคัญที่จะใช้ให้เห็นผล ก็คือการผลัดเซลล์ผิวควบคู่กันไปด้วย ตอนกลางคืน อาจจะใช้พวก AHA cream / serum พวกนี้ก็จะมีของ Skin biology เหมือนกัน

ฉันว่าราคาของเค้าก็เหมาะสมดี บรรจุภัณฑ์ธรรมดาๆแต่ก็ใช้งานได้ดี ผลิตภัณฑ์ดี … ก็เลยโอเค ฉันใช้ตัวนี้หลังจากได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขวดสวยๆแต่ใช้ไม่ได้เรื่องมาแล้ว

 


 

ฉันอายุ 24 และเริ่มมีรอยร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้ม เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิวที่รุนแรงมานาน บวกกับการละเลยที่จะใช้ครีมกันแดด ที่จริงฉันเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ copper peptide บริเวณแนวง่ามขามาเป็นปีแล้วเพราะอ่านเจอวิธีการกำจัดขนคุดบริเวณแนวขอบบิกินี่ในอินเตอร์เน็ต ใช้หลังโกนขนที่แนวขอบบิกินี่เพื่อลดการระคายเคืองผิวจากการโกน ตอนนี้ก็หวังผลจาก cp serum อีกครั้งว่าผิวจะดีขึ้น แต่ครั้งนี้ใช้กับหน้าค่ะ สิวไม่มีแล้ว เหลือแค่รอยสิวหน่อยนึง และอย่างที่บอกไปก่อนหน้า ว่าฉันมีรอยร่องแก้มตั้งแต่อายุ 22!! แล้วก็ได้อ่านเจอว่า CP serum ช่วยสร้างคอลลาเจน และเซลล์ผิวใหม่ ถึงตอนนี้ก็ใช้มาหลายเดือนแล้ว ทาบริเวณที่มีปัญหาแล้วก็นวดให้แห้ง ทาหนึ่งครั้งหลังล้างหน้าตอนเช้า ก่อนแต่งหน้า และครั้งที่ 2 หลังล้างหน้าก่อนนอน ไม่กี่เดือนผ่านไปก็สังเกตุเห็นว่ารอยร่องแก้มที่ว่านั้นดีขึ้นพอสมควร รอยแผลสิวก็จางลง วันนี้ไปพบแพทย์ผิวหนังที่เคยหาประจำ เค้าบอกว่ารอยร่องแก้มแทบมองไม่เห็นเลย แต่เค้าไม่เคยได้ยินชื่อ CP serum หรือ copper peptide นะ ฉันว่ามันแปลกอะ เซรั่มตัวนี้ช่วยทำให้ริ้วรอยฉันหายไป แต่ที่ต้องขอวิจารณ์คือ กลิ่นและสีที่ประหลาด แต่ด้วยผลที่ได้ เลยข้ามๆมันไป


 

http://www.acne.org/copper-peptides-reviews/354/page1.html

 

 

ข้อดี : บางเบา ให้ผลดี ไม่ค่อยมีกลิ่น และได้ผล
ข้อเสีย : ไม่มี .. จริงๆ

สรุป : เราใช้ SkinBiology’s Copper Peptides มาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว เราเป็นคนที่มีรอยแดงและรอยแผลสิวเต็มหน้าเลย เราทาทิ้งไว้บนหน้าแล้วนอน สังเกตเห็นความแตกต่างได้เลยภายใน 3 วัน รอยแดงที่เกิดจาก hyperpigmentation ลดลงไป 40% แล้วก็ยังเห็นว่ารอยหลุมสิวที่เคยเป็น มันเริ่มตื้นขึ้น และเหมือนมีผิวใหม่หนาขึ้นในหลุมสิว เป็นอะไรที่อเมซิ่งมากๆ เราเคยทำเซรั่มวิตามินซีใช้เอง แล้วก็เอามาเปรียบเทียบกัน คอปเปอร์เปปไทด์ชนะเลิศ ผิวโดยรวมของเราดีขึ้นมากกกกก แล้วก็นุ่มขึ้นมากด้วย ใช้คอปเปอร์ฯแล้วเหมือนได้อะไรหลายๆอย่างในหนึ่งเดียว แต่ก็ขอย้ำว่าต้องใช้ต่อเนื่องถึงจะเห็นผล

 


 

 

 

ข้อดี : เซรั่มตัวนี้ใช้กับผิวมันของเราได้ดีทีเดียวเชียว ไม่อุดตันรูขุมขน ใช้ร่วมกับการทำหน้าเช่นการกลิ้งหน้าด้วยเข็ม จนถึงตอนนี้ก็ดีนะ คิดว่าคราวหน้าจะสั่งตัวที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม

ข้อเสีย : ถ้าผิวไม่รับมันจะยับเยินเลย

สรุป : เราว่าการใช้ CP เป็นประจำจะทำให้เห็นผลนะ ช่วยเรื่องแผลเป็นและผิวที่มีปัญหาได้

 


 

 

http://www.makeupalley.com/product/showreview.asp/page=1/pagesize=10/ItemID=4437/

ขอบคุณ MUA ฉันรักผลิตภัณฑ์นี้และอยากจะแนะนำทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น, วัยเรียน, ผู้ใหญ่วัยตั้งครรภ์หรือคนที่เป็นสิวในผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งในผู้ใหญ่ที่โตเต็มที่ มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก มันเผยผิวใหม่ของคุณและทำให้ผิวนุ่มสุดๆ สว่าง เกือบไม่มีรูขุมขน และกระชับ ส่วนที่ดีที่สุดคือการรักษาผิว ฉันทาตามหลัง Ratin-A ทำให้ช่วยลดผลข้างเคียงของผิวลอกจากการใช้ Retin-a และยังใช้ได้ตอนที่ผิวฉันเป็นผื่นแดงหรือระคายเคือง ถ้าสิวเริ่มขึ้นฉันแต้มลงบนสิวเพียงข้ามคืนแค่วันต่อมาสิวยุบเกือบหมด นี่มันเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์มหัศจรรย์สำหรับฉันและฉันจะไม่อยู่โดยไม่มีมัน อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก

 


 

 

 

เท้าความเล็กน้อยไปช่วงต้นปี 2009 ฉันซื้อ Neova’s Antioxidant เซรั่ม (copper peptide) มา 2 ขวดและได้ใช้ไปหลายเดือนซึ่งฉันก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ผลิตภัณฑ์นี้ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้นและผิวดูเรียบขึ้น หลังจากเซรั่มหมดช่วงตุลาคม 2009 ฉันอยากใช้ Copper peptides ต่อแต่ฉันรู้สึกไม่อยากเสียเงินตามราคาของ Neova ทำให้ฉันได้ไปเจอ Skin biology ฉันเริ่มต้นกับ CP เซรั่ม ที่มีรีวิวว่ามันดีอย่างไรกับการเริ่มด้วยตัวนี้แล้วค่อยพัฒนาไปใช้เซรั่มที่เข้มข้นกว่า
ในสัปดาห์ที่ฉันใช้ CP เซรั่มฉันได้เห็นผลลัพธ์ที่ฉันไม่ได้เห็นจากการใช้ Neova จุดสีน้ำตาลเริ่มแลดูจางลงและผิวของฉันแลดูผ่อนคลาย ที่สำคัญไปกว่านั้นสามีของฉันซึ่งรู้ว่าฉันเป็นคนที่ใส่ใจกับการบำรุงดูแลผิวมาก เขาบอกว่า “คุณกำลังใช้อะไรอยู่ ดูเหมือนมันจะเห็นผลนะ” สิ่งที่ฉันรักก็คือผิวฉันไม่เเป็นรอยแดง ที่ปกติแล้วฉันจะเจอผลข้างเคียงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย สารกันแดด วิตามินซี และผลิตภัณฑ์เรตินอล แต่ CP เซรั่มช่วยให้ฉันบำรุงผิวโดยปราศจากรอยปื้นแดงระเรื่อเหมือนสีกุหลาบ และผิวฉันยังไม่ลอกหรือแห้งกร้านจากการใช้เซรั่มตัวนี้อีกด้วย
ตั้งแต่ที่ได้ใช้เซรั่ม ไม่กี่เดือนฉันรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ดี มันช่วยฟื้นฟูและลดเลือนริ้วรอยจากสิว และยังช่วยให้รอยจุดน้ำตาลของฉันดูจางลง ฉันไม่เจอประสบการณ์ที่แย่ ริ้วรอยเหี่ยวย่นหรือสิ่งที่น่าขยะแขยงแต่อย่างใด ฉันใช้มันแค่ 1 ครั้งต่อวัน ฉันคิดว่ามันจับคู่ได้ดีเยี่ยมกับ Clarisonic-ดูเหมือนแปรงตัวนี้จะยกประสิทธิภาพของเซรั่มเมื่อใช้ทุกครั้งก่อนทา ฉันยังรู้สึกอีกว่ามันจับคู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบกับน้ำมันอีมู (ตัวที่เพิ่ม antioxidants)
ตั้งแต่ใช้เซรั่มหมดขวด สัปดาห์นี้ฉันกำลังใช้ Super CP เซรั่มตัวเข้มข้นกว่าและฉันสังเกตเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างทั้ง 2 สูตร ยังคงใช้ 1 ครั้งต่อวัน จุดน้ำตาลซึ่งดูจางลงแต่ไม่จางหายไปกับตัว CP เซรั่มปกติ นั้นดูจางลงมากกว่าหลังจากที่ใช้ Super CP เส้นริ้วรอบๆปากของฉันก็ดูตื้นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ท้ายที่สุด CP เซรั่มนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการใช้ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าผิวของคุณจะมีปฏิกิริยาเช่นไรต่อ copper peptide มันมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้ทั้งยังไม่มีผลข้างเคียงที่จะทำให้ผิวคุณลอกหรือแดง


 

 

 

ฉันใช้ CPเซรั่มมาได้ซักพักแล้วและประทับใจกับผลลัพธ์ของมันมาก และฉันยังรักษาจุดด่างดำด้วย Super CP เซรั่ม และใช้ GHK ที่ตาของฉัน ฉันเริ่มต้นอย่างช้าๆเพื่อหลีกเลี่ยงความน่าเกลียดที่จะเกิดขึ้น และมันดูเหมือนจะได้ผล เป้าหมายของฉันคือแค่ต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและฟื้นฟูสภาพผิวตามวัย (ฉันอายุเกือบ 50 ปีแล้ว)  ฉันยังเคยมีหัวสิวและรอยดำ รอยแผลเป็น ริ้วรอยแห่งวัย และรอยแผลเป็นจากสิวที่ต้องรักษา และสิ่งอุดตันตามรูขุมขนที่ต้องกำจัดออกไปด้วย ฉันเคยใช้ Tazorac เป็นเวลานานแต่การใช้นั้นทำให้เกิดการระคายเคือง แต่ CP เซรั่มทำให้การระคายเคืองเหล่านั้นหมดไปดังนั้นฉันจึงได้รับประโยชน์จากมันเต็มที่ ฉันยังได้เพิ่ม Paula Choice’s 2% BHA ในการใช้ประจำวัน ภายในเดือนนั้นสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนหายไป หัวสิวที่แพทย์ผู้ชำนาญทางโรคผิวหนังเคยบอกว่าจะทำให้หายไปโดยการผ่าตัดนั้นหายไปโดยปราศจากรอยแผลเป็น สิวและรอยแผลเป็นจากสิวถูกกำจัดไปได้เร็วกว่าเดิม และริ้วรอยตามลำคอดูดีขึ้น (ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ) นอกจากนี้ หนังตาบนของฉันกระชับขึ้น (ฉันเคยคิดที่จะทำศัลยกรรม) และฉันยังเห็นอีกด้วยว่ารอยขากรรไกรข้างมุมปากดูน้อยลง ฉันวางแผนที่จะใช้ Super CP ทั่วใบหน้า หลังจากที่ได้ใช้รักษาจุดด่างดำจากหัวสิวและริ้วรอย ฉันจะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นี้อีก

 


 

 

 

ฉันเคยใช้ผลิตภัณฑ์นี้ร่วม 2 เดือนโดยไม่เห็นผลลัพธ์ใดๆ ฉันเกือบเลิกใช้มันจนกระทั่งได้อ่านพบว่าคุณไม่ควรใช้วิตามินซีภายใน 12 ชม. กับการใช้ CP เซรั่ม ซึ่งมันจะต่อต้านกันและกัน ฉันเคยใช้ Skinceuticals serum 20 ซึ่งช่วยกระชับผิวเป็นอย่างดี แต่ฉันมองหาผลลัพธ์ที่น่าทึ่งกว่าดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเพิ่ม CP เซรั่มเข้าไปในขั้นตอนประจำวันโดยปราศจากผลลัพธ์ แต่แล้วฉันเริ่มใช้ CP เซรั่มโดยไม่ใช้ Skinceuticals serum 20 และก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายในสัปดาห์เดียว รอยแผลเป็นจากสิวจางลงและผิวของฉันรู้สึกกระชับขึ้น ฉันจะใช้มันต่อไปอีกในระยะยาวโดยปราศจากวิตามินซี

 


 

 

 

ฉันดีใจมากที่ฉันไม่ได้ปล่อยให้รีวิวไม่ดีบางอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ทำให้ฉันไม่ได้ทดลองใช้มัน ฉันยังใหม่กับ copper peptides และฉันเคยถูกล่อใจให้อยากเริ่มใช้ Super CP โดยรีวิวที่แสนวิเศษของมัน แต่แล้วฉันก็ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่าผู้ใช้ Super CP เป็นส่วนมากเคยได้ลองใช้ CP เซรั่มและชอบมัน หลังจากนั้นจึงยกระดับไปใช้ตัว Super CP และมีผลที่ดีเยี่ยมเกี่ยวกับมัน ส่วนใหญ่คนเริ่มใช้ Copper Peptides จะเริ่มจาก CP Serum ก่อน และ Copper peptide ไม่ได้ให้ผลดีกับทุกคน นั่นจึงทำให้รีวิว CP Serum มีทั้งดีและไม่ดีปนกัน ส่วน Super CP นั้นจะมาจากคนที่ใช้เป็นขวดที่สองและตัดสินใจแล้วว่า Copper Peptides ใช้ได้ผลสำหรับพวกเขา ดังนั้นรีวิวจึงโน้มเอียงไปในทางบวก อย่างที่ฉันบอกไว้ เริ่มด้วยการใช้ CP แล้วค่อยใช้ตัวอื่น (ถ้าผิวของคุณตอบรับในทางที่ดีขึ้น) ซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับฉัน เมื่อตอนที่ฉันซื้อผลิตภัณฑ์ฉันไม่เคยแม้แต่จะรู้ว่าจะทำอย่างไรกับมัน แต่เพียงแค่ภายใน 2 สัปดาห์ผิวของฉันดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้นและรูขุมขนลดลง ฉันใช้มันร่วมกันกับ AHA และ BHA ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันเคยใช้ 2 ตัวนี้มาก่อนแต่ไม่เห็นผลว่ารอยต่างๆจะจางหายไป จนกระทั่งฉันเพิ่ม CP เข้าไป ฉันใช้มันทุกคืน แค่นั้นไม่มีอะไรอื่นอีกมันให้ผลที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันจะใช้ CP Serum ของฉันทั้งหมดและยกระดับไปใช้ Super CP และดูว่ามันให้ผลอย่างไรบ้าง แต่ฉันดีใจที่ได้ลองตัวที่อ่อนก่อนและได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นจึงหวังว่าตัวที่แรงกว่าจะให้ผลลัพธ์ที่แสนวิเศษ และตั้งแต่ฉันได้เริ่มใช้ก็แทบไม่เจอผลข้างเคียงอะไร ชีวิตฉันเปลี่ยนไป ฉันมีผิวที่ดูสวยอ่อนเยาว์จริงๆ ทั้งที่ฉันไม่เคยคาดหวังกับผลิตภัณฑ์นี้มาก่อนว่ามันจะทำได้

 


 

 

http://www.makeupalley.com/product/showreview.asp/page=2/pagesize=10/ItemID=4437/

 

นี้คือผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิวพรรณในระยะยาว ถ้าคุณกำลังมองหาความรวดเร็วผลิตภัณฑ์นี้ไม่เหมาะกับคุณ ฉันใช้ CP เซรั่มมาแล้ว 2 ขวดโดยใช้ร่วมกับ Exfol เซรั่ม ฉันคิดว่ามันฟื้นฟูปรับสภาพผิวของฉันให้ดีขึ้น ฉันได้รับความเห็นซึ่งบอกว่ารอยรอบดวงตาฉันดูลดเลือนลง
ฉันเพิ่งจะสั่งซื้อ CP เซรั่มและ Exfol เซรั่มเพิ่มอีก

 


 

 

 

ฉันเคยได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้เมื่อหลายปีก่อน และฉันไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรถึงไม่ได้สั่งซื้อมันอีก ฉันสั่งซื้อเซรั่มอีกเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ฉันนึกถึง Copper peptides อีกครั้งเพราะฉันกำลังพิจารณาถึงครีมทารอบดวงตาราคาแพง และเห็นโฆษณาดึงดูดให้ซื้อ Copper peptides พอดี ด้วยราคา 29 เหรียญ และฉันก็มั่นใจว่าฉันใช้ผลิตภัณฑ์ของ Skinbiology ดีกว่า ผิวของฉันเนียนนุ่มเหมือนก้นเด็ก และฉันรู้สึกว่ามันทำให้ผิวของฉันดีขึ้นด้วย ฉันรักมันและจะสั่งซื้อมันอีกครั้งเมื่อขวดนี้หมด

 


 

 

ฉันซื้อ CP เซรั่ม + Exfol Serum จาก dianayvone ฉันใช้มันสลับวันกันและใช้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะว่าฉันกลัวว่าผิวของฉันจะหย่อนคล้อยถ้าใช้มากเกินไป อีกทั้ง CP เซรั่มนั้นค่อยข้างเหนียวดังนั้นฉันจึงไม่ต้องการให้มีอะไรมาทับซ้ำบนหน้าเช่นเครื่องสำอางตอนกลางวัน
ในตอนแรกมันดูเหมือนไม่มีผลอะไรเลย แต่หลังจากหลายสัปดาห์ผ่านไป ฉันคิดจริงๆ แล้วว่าผิวของฉันดูดีขึ้นจริงๆ มันนุ่มขึ้น ดูกระชับขึ้น ตึงขึ้น และดูเปล่งปลั่งระเรื่อขึ้น ฉันจะไม่ใช้มันทุกวัน ฉันค่อนข้างพอใจกับหลักเกณฑ์ใช้แบบวันเว้นวันนี้
นอกจากนี้ฉันยังชอบราคาที่สมเหตุสมผลและขวดที่ดูเรียบง่าย ฉันชอบผลิตภัณฑ์ที่มีขวดเรียบๆ มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ขวดสวยบรรจุในกล่องแวววาวซึ่งมีราคาต้นทุนที่สูงกว่ามาก ฉันชอบธาตุแท้ที่เป็นแก่นสารมากกว่าการแสดง

 


 

 

http://www.makeupalley.com/product/showreview.asp/page=2/pagesize=10/ItemID=4437/

 

 

สามีและฉันเคยใช้ CP เซรั่มอยู่ 2 เดือน ฉันเคยมีผิวที่มันมาก ส่วนเขามีผิวที่แห้งและมีริ้วรอยมาก ฉันอดทนต่อการใช้ CP เซรั่มและสามารถปรับไปใช้ Super CP ได้ ส่วนสามีเขาไม่ลงรอยกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผิวที่แห้งมากเกินไปของเขากลายเป็นตุ่มแผลเป็นจุดๆ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องทาน้ำมันอีมูก่อนแล้วจึงค่อยทา CP เซรั่มตาม เขายังต้องทำให้มันเจือจางด้วยน้ำถ้าหากว่ามันเข้มข้นเกินไป มันดูเหมือนป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่บนผิวของเขา ในกรณีของเขาเพื่อที่จะให้เห็นผลในการลดริ้วรอยที่เขาเคยมี เขาจำเป็นต้องขจัดผลัดลอกผิวเก่าเพิ่ม ด้วย AHA มากกว่า 30% เพื่อที่จะให้ได้ผลสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ฉันเคยใช้ ไกโครลิก30% และทา BHA 2% หรือกรดBHA/AHA 2/4% บนผิวหน้าเป็นประจำ 30 นาทีก่อนทา CP ฉันคิดว่ามันได้ผล มันถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างผิวใหม่หลังจากผลัดลอกผิวเก่าออกไป และมันยังช่วยให้ผิวเย็นขึ้นหลังจากการทำเลเซอร์ หรือ microdermabrasion เพื่อกำจัดรอยแผลเป็น และยังเคยมีในรายงานว่าช่วยรักษาบรรเทาการไหม้จากการลอกผิวด้วย TCA ซึ่งทำให้ผิวแย่มาก
หลายคนบอกว่าผิวฉันดูเยี่ยมมาก แผลเป็นจากสิวส่วนใหญ่หายไปและฉันรู้สึกว่ามันเป็นปรากฎการณ์ของการดูแลผิวอย่างเคร่งครัดของฉัน สิ่งที่คุณต้องเข้าใจคือจะใช้ Copper peptide อย่างไร สำหรับผิวแห้งและมีริ้วรอย อย่างสามีฉันอาจจะจำเป็นต้องใช้ Copper peptide แบบครีมแทน ส่วนบริเวณรอบดวงตาของเขาจำเป็นต้องใช้กรดอ่อนๆเพื่อเปลี่ยนผิวบริเวณนี้ใหม่
ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ ฉันแนะนำให้นำผลิตภัณฑ์บรรจุในขวดแก้วที่มีหลอดหยดเพื่อความแม่นยำในการควบคุมปริมาณการใช้ แนะนำให้ใช้ 3-4 หยดในขั้นเริ่มต้น ซึ่งส่วนฝาด้านบนออกแบบมาค่อนข้างง่ายที่จะบีบเซรั่มจนเกลี้ยง ถึงแม้จะน้อย ราคาสูงไปซักหน่อยแต่ใช้ได้นาน   ฉันจึงรู้สึกว่าราคาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่แพงมากเกินไป

 


 

 

นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมากซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยเส้นริ้วรอยรอบดวงตาคุณ แต่เมื่อใช้ทั่วใบหน้ามันช่วยให้ผิวหน้าคุณสว่างใสขึ้น ฉันใช้ผลิตภัณฑ์นี้ร่วมกับ Exfol เซรั่มมากกว่าหนึ่งเดือนและไม่มีอะไรที่จะมีความสุขได้มากมากกว่านี้อีกแล้ว


 

 

 

ฉันใช้ผลิตภัณฑ์นี้มาเกือบปี และยังคงพยายามที่จะลองดูว่าอะไรที่ฉันใช้อยู่เป็นประจำจะดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันเคยมีประสบการณ์ที่น่าเกลียด แต่อีกครั้งแล้วที่ฉันได้มีประสบการณ์ที่มีผิวสวยงามเปล่งประกาย เมื่อฉันคิดว่าผิวของฉันดูแย่ลงฉันก็ย้อนกลับไปใช้มันอีก แต่เมื่อฉันดูดี ดูเริ่ดแล้ว เส้นต่างๆดูลดลง มันให้ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย และแผลเป็นจากสิวไม่เหลือแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฉันยังคงใช้มันอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณ มันทำให้ผิวของฉันเนียนนุ่ม และลดเลือนจุดด่างดำที่ฉันเคยมีมานาน มันเกือบจะเหลวเหมือนน้ำ ทำให้รู้สึกบางเบาเมื่อทาลงบนผิว อย่างเดียวที่ฉันรู้สึกว่าไม่ดีคือกลิ่นฉุนซึ่งที่จริงจะหายไปภายในไม่กี่นาที และบรรจุภัณฑ์น่าจะน่ารักกว่านี้ ยังไงก็แล้วแต่ตัวนี้ก็ต้องเป็นผลิตภัณฑ์แนะนำ