layer_of_damage

วิธีการใช้ Copper peptide กับแผลเป็น


ผลิตภัณฑ์ Copper peptide คลิกที่นี่

การลดรอยแผลสิว และแผลเป็นหลุม

1.การใช้กรดผลไม้จะค่อย ๆ คลายเนื้อเยื่อพังผืดที่ดึงอยู่ใต้ผิวออก หลาย ๆ คนใช้วิธีนี้ได้ผล แต่หากเป็นผู้ที่มีเนื้อเยื่อเหนียวก็อาจต้องใช้กรดผลไม้ที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ส่วนใหญ่ในคนที่มีผิวมันจะมีเนื้อเยื่อผิวที่เหนียวกว่าคนผิวธรรมดา

2.การใช้ Copper peptide ที่เข้มข้นสามารถช่วยลดการระคายเคืองผิวได้ และช่วยให้ผิวสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อพังผืดที่หลุดออกไป

3.เมื่อเนื้อเยื่อพังผืดได้ถูกแทนที่ด้วยผิวใหม่ที่สุขภาพดี สภาพผิวโดยรวมก็จะเรียบเนียนขึ้น

หลักสำคัญที่สุดคือการทำให้ผิวดีขึ้นโดยไม่ทำให้เป็นสิวมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้นกว่าปกติได้มาก

 

layer_of_damage

 

หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในขณะที่ยังมีสิวเพิ่มอยู่ ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยที่สุดในการลดรอยแผลจากสิวและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมันนั่นคือ Super CP serum (เป็นคอปเปอร์เปปไทด์ที่เข้มข้นสูตรปราศจากน้ำมัน) และ LacSal Serum ซึ่งประกอบด้วยเซรั่มกรดผลไม้ 10% ซึ่งมีทั้งกรดแลคติคและกรดซาลิไซลิค

เริ่มด้วยการใช้ Super CP serum กับ LacSal serum กรดผลไม้10% (Lactic Acid 8.5% + Salicylic Acid 1.5%) วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัย โดยใช้ Super CP serum ในตอนเช้า และใช้กรดผลไม้ ตอนก่อนนอน (สมารถสลับเวลาการใช้ได้ถ้าหากไม่สะดวก) ใช้วิธีดังกล่าวนี้เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์แล้วสังเกตผลที่ได้ หากเกิดอาการระคายเคือง ให้ทาปริมาณน้อยลง

หากใช้ Super CP serum กับ LacSal serum แล้วไม่เกิดผลต่อผิวเลย ก็ให้เปลี่ยนมาใช้เป็น Super Cop Cream ร่วมกับ Exfol Cream โดยตอนเช้าใช้ Super Cop Cream เฉพาะจุดที่เป็นแผลเป็น และใช้ Exfol Cream ก่อนนอน ซึ่งวิธีนี้จะให้ผลดีกว่าในการจัดการรอยแผลเป็น แต่อาจทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น หากใช้แล้วไม่เป็นสิวก็ให้ใช้วิธีนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์

หลังจากทดลองวิธีทั้งสองแล้ว ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกวิธีการใด (ระหว่าง Super CP serum & LacSal Serum กับ Super Cop Cream & Exfol Cream) อันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดของแต่ละคนในการรักษารอยแผลสิว