##ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล##
http://www.makeupalley.com/product/showreview.asp?ItemID=18743
ตัวนี้เป็นสินค้าที่ดีที่สุดที่เคยซื้อมา คือฉันซื้อทุกตัวเลยแหละ แล้วก็ชอบที่จะเสาะหาผลิตภัณฑ์เพื่อเอามาใช้กับผิวหน้า ราคาไม่เกี่ยง ในความคิดของฉันเรามีใบหน้าที่ได้รับจากพระเจ้าเพียง 1 หน้าเท่านั้น และเราควรต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันคงความเป็นผิวหน้าที่สุขภาพดี บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น … ฉันเป็นคนผิวแห้งมากกกก ยังไม่เคยเจอผลิตภัณฑ์บำรุงที่เอาผิวแห้งๆของฉันได้อยู่หมัดขนาดนี้ ฉันก็ยังซื้อผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่เป็นกลุ่มครีมด้วย แถมเป็นผื่นแพ้ผิวหนังอีก ถ้าช่วงที่อากาศแห้งมากๆ ผิวฉันก็จะแย่มากเลย มันจะกระจายไปทั่วแก้มสองข้าง และคาง เพื่อนร่วมงานฉันเคยเล่าให้ฟังเรื่อง emu oil ฉันรีบดิ่งไปซื้อมากจากที่ร้านเลย ราคาก็ไม่ได้สูงเกินไปนะฉันว่า หลังจากทาไป 3-4 วัน โดยทาอีมูก่อน แล้วค่อยทาครีมบำรุง ตอนนี้ใช้ Aveeno เพราะมันเป็นครีมที่มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด มีข้าวโอ๊ตด้วย อาการผิวผื่นแพ้ที่ฉันเป็นหายไปเลย!!! พูดจริงนะ ไม่มีผิวแดง แห้งแตก คัน ตึง หรืออะไรอีกเลยอะไรจะปานนั้น … ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอีมู ทุกวันนี้ก็ทาก่อนครีมบำรุงกลางคืน ไม่เคยรู้สึกว่าผิวดีได้อย่างนี้มาก่อน ผิวดูดีขึ้นและอ่อนวัยลงไปเยอะเลย!!
ขอรีวิวอีมูออยล์แบบกว้างๆนะ ฉันได้อีมูออยล์จาก Nigels รักมากมาย และคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน ฉันจะทาอีมูก่อนลงไพรเมอร์และกันแดดในตอนเช้า และทาทับครีมบำรุงกลางคืน ผิวฉันอวบอิ่มมีน้ำมีนวล เนียนเรียบกว่าที่เคยเป็น อายุ 47 ปีแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสิ่งที่ต้องการ ก่อนที่จะสายเกินไป มันได้ช่วยผิวบางๆของฉันไว้ ฉันลองเอาผสมกับน้ำมัน Josie Maran Argan เพื่อเพิ่มพลังบำรุง และผลที่ได้นั้นแจ๋วมาก
ตอนนี้ฉันหลงน้ำมันมากๆ และมันเริ่มจากน้ำมันอีมูเนี่ยแหละ ฉันได้อ่านรีวิวออนไลน์ว่ามันช่วยแก้ปัญหาผิวทั้งหมดได้ในหนึ่งเดียว!! ฉันเป็นพวกมังสวิรัติก็เลยมีข้อจำกัด แต่คิดว่าเค้าคงเข้าใจความจำเป็นของฉัน ใช้ทาวันละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังล้างหน้า มันจะทำหน้าที่เหมือนกับนำ้มันธรรมชาติของผิว เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือเวลาที่เราล้างหน้า ผิวเราจะสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยง และน้ำมันนี่ยังมีคุณสมบัติในการลงไปในชั้นผิวที่ลึกยิ่งขึ้น จะลงลึกได้มากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงทั่วๆไป ใช้ทาเป็นลำดับสุดท้ายของผลิตภัณฑ์บำรุงตัวอื่นๆจะดีกว่า เพื่อให้สารประกอบในผลิตภัณฑ์อื่นๆลงไปชั้นผิวที่ลึกยิ่งขึ้น ฉันจะใช้ทาผิวเวลาที่คัน แล้วมันจะหายได้เร็วมาก ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย ป้องกันเชื้อราได้, ป้องกันการอักเสบของผิว, ป้องกันแบคทีเรีย, ป้องกันการติดเชื้อ ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน และช่วยเรื่องการอักเสบของสิว
ฉันใช้น้ำมันอีมูมาประมาณ 1 ปีได้ละ หลังจากที่ได้อ่านรีวิวดีๆ ฉันจะใช้คัตตอนบัดแตะน้ำมันแล้วเช็ดเมคอัพที่ตาออก ฉันชอบที่จะแตะรอบดวงตาด้วยน้ำมันอีมู บริเวณที่มีรอยเหี่ยวย่น แต่ก็ไม่ได้เห็นความแตกต่างมากนักสำหรับรอยเหี่ยวย่นใต้ตาที่ว่านี้ ก็ดีกว่าโลชั่นทั่วไป แต่.. ตอนนี้ที่จมูกฉันมีรอยแผลจากการติดเชื้อ เมื่อตอนที่เป็นสิวอักเสบ ทำยังไงก็ไม่หาย ลองมาหมดทุกวิธีที่เค้าแนะนำกันแล้ว แต่ก็ไม่เวิร์ค แล้วก็มีคนนึงพูดถึงน้ำมันอีมูที่เอามาทาเพื่อแก้ปัญหาที่ว่านี้ รู้สึกเหวอมากเพราะฉันก็เป็นเหมือนกัน ฉันลองใช้อีมูออยล์แปะไปตรงที่มีปัญหา แล้วใช้พลาสเตอร์ปิดไว้ 8 ชั่วโมงแรกโดยประมาณ ลองเปิดดูรู้สึกได้ว่ามันหดลงบ้างแล้ว หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ แผลที่เป็นก็ดูดีขึ้นมาก!! สิวที่ขึ้นข้างๆรอยแผลเก่าก็หายไปด้วย!
คือพอเราอายุเยอะขึ้น แก่ขึ้น ผิวเราก็จะเปลี่ยน … ได้ยินเรื่องราวดีๆของน้ำมันอีมูมามาก ก็เลยขอลองซักที ก็…เหมือนเดิม ตามคำแนะนำของคนที่รีวิวก่อนหน้า อีมูที่ซื้อจากที่นี่ขอบอกว่าดีที่สุดอะ ฉันเริ่มใช้เมื่อปีที่แล้วและรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ แต่ร้านที่ซื้อเค้าเลิกขายไปพักนึงแล้ว ก็เลยลองหาซื้อท่ีอื่นดู แต่ยังไม่เจอเจ้าไหนที่ให้ผลใกล้เคียงกับเจ้าเดิมเลย (ของบางเจ้าก็กลิ่นแย่ สีก็ไม่ไหว) ตอนนี้เค้ากลับมาขายใหม่แล้ว และฉันก็ได้มาขวดนึง ผิวฉันรักน้ำมันอีมูนี้เลย คนขายเจ้านี้น่ารัก น่าคบค้าด้วย ยกนิ้วให้เป้งๆเลยละกัน ถ้าให้ได้จะให้ 10 คะแนนเลย
แรกทีเดียวที่ซื้อตัวนี้มาก็จะใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย แต่มันก็ไม่ได้จะช่วยเรื่องนี้มากเท่าไหร่นัก แต่จะช่วยเรื่องสุขภาพผิวโดยรวมมากกว่า ผิวฉันดูดีขึ้นและรอยแผลที่เกิดจากการเป็นสิวก็จางหายไป สรุปแล้ว ถ้าคุณต้องการจะใช้ตัวนี้อย่างเดียวเพียงเพื่อลดริ้วรอย ฉันว่ามันไม่ได้ แต่แนะนำว่ามันช่วยเรื่องเนื้อผิวและความอวบอิ่มของผิวได้ดีอ้อ…ฉันใช้มาได้ 2 สัปดาห์แล้ว ไม่มีผลข้างเคียงจากการใช้นะ
ฉันใช้อีมูออยล์กับทุกส่วนของร่างกาย เป็นมอยส์เจอร์ฯที่ดีที่สุดสำหรับผิว และช่วยลดรอยแผล ดีกับผมด้วยเหมือนกัน ช่วยแก้ปัญหาผิวผื่นแพ้ได้ ฉันซื้อใช้มาเป็นปีแล้ว
เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย ฉันมีแผลไหม้ที่ปากตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วก็มาใช้น้ำมันอีมู แผลที่เป็นดีขึ้นเร็วมาก ดีสำหรับผิวผื่นแพ้เหมือนที่หลายๆคนบอกด้วย เป็นอะไรที่เจ๋งมาก ฉันใช้เป็นตัวบำรุงผิวหน้า แต่สงสัยจะทาเยอะเกินไป ว่าจะผสมกับ AHA cream ที่ใช้อยู่ แต่เดี๋ยวจะใช้ให้น้อยลง ทำไมอีมูออยล์ถึงได้เวิร์ค … ก็มันซึมลงไปในผิวได้ลึกมาก ก็จะช่วยบำรุงได้มากขึ้นนั่นเอง
นี่เป็นการรีวิว emu oil จาก skin biology มันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมากๆ ชอบความบางเบาและไม่ทำให้เป็นสิวเพิ่ม โดยจะทาทับ Retin-A, CP serum และ Factor A หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด และผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่ต้องการ .. กระชับ สีผิวสม่ำเสมอ รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่าง แต่หักคะแนนที่ข้อเสียเช่น อาจทำให้เป็นรอยแดงๆ ลอกตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีตัวนึง โดยไม่รบกวนการทำงานของผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ แต่ช่วยให้ตัวอื่นๆออกฤทธิ์ดีขึ้น (ดร.พิคอาร์ตกล่าวว่า emu oil จะช่วยให้ตัวอื่นๆซึมลงผิวและทำงานได้ดีขึ้น) ทำให้ผิวดูดีขึ้นด้วย ผิวหน้าฉันสีอมชมพู เนียนเรียบ และกระจ่างใสหลังจากการใช้ต่อเนื่องในตอนกลางคืน
ชั้นซื้อมาจากที่อื่น โดยอ่านการรีวิวที่ Make-up Alley เค้าแนะนำมาและชอบตัวนี้มาก ฉันใช้ตัวนี้กับทุกส่วน เป็นน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับผิวจริงๆ เอาไว้ทาปากด้วย เพราะผิวบริเวณนี้บอบบาง ระคายเคืองง่าย คัน และแห้งแตกเป็นประจำ ด้วยความที่เป็นคนผิวมีผื่นแพ้ด้วย ก็เลยเลือกตัวนี้ไว้ใช้Emu oil ช่วยลดการระคายเคืองโดยไม่ต้องใช้พวกสเตียรอยด์ร่วมด้วยเลย ช่วยป้องกันผิวไม่ให้กระดำกระด่าง และแก้ปัญหาผิวมือแห้งที่มักเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาว (และฉันต้องล้างมือบ่อยเพราะทำงานที่ห้องฉุกเฉิน)มันซึมลงไปที่ผิวหมดเกลี้ยงไม่ทิ้งความมันไว้เลย ฉันเอามาทารอยตีนกาที่รอบดวงตาด้วย ใช้แล้วไม่อุดตัน ไม่ทำให้สิวเห่อขึ้นมานะไม่มีกลิ่น เป็นอะไรที่ดีมากข้อสำคัญ หลายคนที่รู้จักเอามาใช้กับเส้นผมและได้ผลดีมาก ฉันก็เคยลองแล้ว แต่รู้สึกว่าโจโจ้บา หรือ คามิเลียออยล์จะให้ผลดีกว่ากับปลายผมแห้งๆอย่างไรก็ดี น้ำมันที่บอกตะกี๊มันเหนียวไปที่จะใช้กับผิว ถ้าจะใช้กับผิวหนัง ฉันเลือกและติดใจ Emu oil
สำหรับผิวฉันใช้อีมูออยนี้มาซักพักแล้ว เคล็ดลับก็คือใช้ปริมาณน้อยๆ แค่ 2-3 หยด ใช้เองส่วนตัวแล้วพบว่า ใช้ทาก่อนมอยส์เจอร์ฯจะไม่ทำให้เกิดสิว ชอบที่มันช่วยบำรุงและประโลมผิว ช่วยเร่งการรักษาบาดแผลได้เร็วขึ้น ใช้ทาทั่วหน้าด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งๆที่ผิวเป็นสิวง่าย ช่วยให้รอยแผลหายได้เร็วขึ้นและช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นในบางจุดที่เคยเป็นสิวง่าย ผิวที่หน้าผากจะเห็นได้ขัดว่าแข็งแรงขึ้นและเนียนเรียบขึ้น ใช้รองพื้นแค่เล็กน้อยไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เลย เกือบเพอร์เฟคต์แล้วล่ะ ผิวส่วนอื่นๆก็ดีขึ้นเช่นกัน
สำหรับเส้นผมอยู่ไม่ได้แน่นอนถ้าไม่มี emu oil เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับเส้นผม ฉันเป็นคนผมบางมาก ผมยาวช้าและแห้ง เครียดมากๆเพราะว่าผ่านไป 5 ปีแล้วผมก็ยังไม่ยาวไปไหน! หนังศีรษะก็คัน หลังจากใช้ได้ซักพัก ผมฉันดูดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน! ผมก็เริ่มยาวขึ้น ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมายาวมาได้ 1 นิ้วเลยล่ะ สำหรับฉันมันมากนะ แฮปปี้มากๆที่ค้นพบตัวนี้ มันช่างเป็นตัวช่วยชีวิตผมฉันจริงๆเลย ทำสีผมก็ได้ ผมก็ยังดูดีอยู่ ที่เจ๋งสุดก็คือมันช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลายได้ ฉันจะใช้ 2-3 หยดเทใส่มือแล้วก็ถูๆจากนั้นก็ลูบที่ปลาย ช่วยให้ผมเรียบลื่นและหนานุ่มขึ้น! หลังจากนั้นฉันก็ไปยืดผม ให้ผมตรงสลวยเรียบลื่น ผมฉันก็ไม่แตกปลายอีกต่อไป! ถ้าไม่ทาเยอะเกินไป มันก็จะไม่หนักผมหรอก ไม่ทำให้ผมมัน ผมเหนียว ดีใจที่สุดเลยที่เจอผลิตภัณฑ์นี้ ไปอ่านเจอมาด้วยว่ามันช่วยให้ผิวที่หนังศีรษะหนาขึ้น ช่วยชะลอผมหงอกได้ ณ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้จริงหรือเปล่า แต่ถ้าจริงก็ถือเป็นโบนัสละกัน
ฉันเจอ emu oil เมื่อ 2 ปีที่แล้ว กะจะซื้อมาใช้รอบดวงตา emu oil นั้นเป็นมอยส์เจอร์ที่ดีมากๆ แต่ที่จริงแล้วไปเจอมาว่ามันมีประโยชน์หลายอย่างเลย ฉันใช้ทารอยแตกลายที่ท้อง ช่วงที่ตั้งครรภ์ และก็ทาหลังคลอด ทาแผลผ่าคลอดด้วย และภายในปีเดียวแผลผ่าคลอดก็หายเหมือนกับไม่เคยเป็นแผลมาก่อนเลย คุณแม่ๆคะ ตัวนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผื่นผ้าอ้อมได้ด้วยค่ะ ลูกสาวฉันเวลาที่เค้าคันขึ้นมาก็จะเรียกหา Emu oil เลยล่ะ ทาลงไปครั้งแรกก็หยุดอาการได้ทันที ตะลึงไปเลยฉันเริ่มหาข้อมูลของ emu oil หลังจากที่เห็นผลจากการใช้ขั้นเทพขนาดนี้ ลูกสาวฉันตอนนี้ 2 ขวบแล้ว ตอนอาบน้ำในอ่างแล้วสบู่เข้าตา เธอรีบคว้า emu oil มาถูที่ตา แค่พักเดียวก็หายแสบตาเลยเลิฟตัวนี้มาก ฉันใช้ทาทุกอย่าง ไม่ว่าจะโดนแมลงกัด, สบู่เข้าตา, ผื่นผ้าอ้อม, แดดเผา, แผลที่ปาก แผลที่เด็กๆเล่นซนกัน …สามีฉันเค้าไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวต่างถามหาแต่ emu oil ฉันเท emu oil ผสมลงไปในขวดแชมพูนิดหน่อย ทำให้ผมเด็กนุ่มแล้วก็หวีง่ายขึ้นแม่ฉันเป็นโรคไขข้ออักเสบก็ใช้ทาที่มือ ฉันใช้ทาหน้าหลังลอกหน้าด้วยเคมีถ้าคุณยังไม่เคยลอง emu oil ลองก่อนเถอะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีจริงๆเลยอ่านข้อมูลดูนะคะ
ฉันใช้ emu oil ของ skin biology ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ที่รอบดวงตาของฉันได้ดีมากกว่าครีมรอบดวงตาแพงๆซะอีก ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และให้ความชุ่มชื้น ผิวจะไม่ได้ตึงกระชับทันทีที่ใช้ แต่จะรู้สึกหลังจากผ่านไปสัก 2-3 ชั่วโมงเมื่อทาครีมบำรุงปกติร่วมด้วย ฉันจะใช้ emu oil ทาทับ lacsal cream ที่เป็นครีมผลัดเซลล์ผิวของ skin biology ในตอนกลางคืน แล้วก็ตามด้วย GHK-copper หรือครีมวิตามินซี ตอนเช้า ปล. ทีแรกๆที่ทา ฉันคันที่ผิว แต่ตอนนี้มันเยี่ยมมาก
Emu oil ดีที่สุดดดด อย่างที่คนอื่นๆรีวิวกันไว้ emu oil มีคุณสมบัติช่วยเยียวยาผิวได้ดีมาก หลังจากที่ลอกผิวด้วย TCA มา ก็ใช้ emu oil ทา … ผลที่ได้รับนั้นเป็นอะไรที่เริ่ดมาก ไม่ทำให้เป็นรอยแผล สำหรับคนที่อายุ 33 แบบชั้นซึ่งยังมีผิวมัน ชั้นชอบ emu oil เพราะมันมีเนื้อที่ซึมได้เร็วและดีกว่า jojoba oil ซึ่งรู้สึกว่ามันหนา หนัก แล้วก็กองๆอยู่บนผิว และรู้สึกว่ามันทำให้อุดตัน แถมยังประทับใจตรงที่ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยไม่ทำให้เป็นสิวอีกด้วย (มหัศจรรย์จริง) emu oil นั้นเป็นอะไรที่คงไม่มีวันได้พบเจอ ถ้าชั้นไม่ได้ไปลอกหน้ามา แต่ตอนนี้และต่อๆไป จะเป็นตัวหลักสำหรับกล่องความงามของชั้น (ขอบคุณชาว MUA ที่ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ดีๆแบบนี้
เดี๋ยวนี้ชั้นไม่ได้ใช้ emu oil ทุกวันแล้ว แต่ก็นะ ยังไม่เจออะไรที่ดีกว่าเลย ที่จะใช้กับผื่นแพ้ผิวหนัง หรือเซบเดิร์มที่กำเริบขึ้นมา อันที่จริงมันใช้ดีกว่า cortizone cream สำหรับผื่นแพ้ที่ดื้อยาซึ่งใช้มาเป็นปีแล้ว ชั้นทาที่ข้อมือเวลาที่อาการโรคกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือกำเริบ อยากให้มันเป็นยังไงอีกมั่งล่ะจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้? จะเอามากินก็ได้ (รสชาดไม่ดีหรอก แต่ไม่เป็นอันตราย) ใช้ทาแผลไหม้, ผื่นแพ้, เซบเดิร์ม และลดการอักเสบที่ผิวได้ อย่างไรก็ดี ผิวแต่ละคนแตกต่างกัน ฉันงงว่าทำไมบางคนใช้แล้วไม่เวิร์ค ถ้าเค้าได้ใช้ emu oil ที่คุณภาพดี ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เจ๋ง ขอแนะนำเลย ยกเว้นคนที่ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์
ชั้นใช้ emu oil มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้อายุ 53 ผิวขาว ตาสีเขียว ชั้นเคยลองใช้ผลิตภัณฑ์หลายอย่างมาก เพื่อจะลบรอยที่เกิดจากการหัวเราะ อยู่ที่ร่องแก้มลึกมาก แล้วก็ที่หางตา หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระที่จะทำให้รอยที่ว่านี้หายไป แต่ชั้นพยายามจะชะลอริ้วรอยให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ Emu oil นั้นทำได้ ชั้นใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้า แต่ไม่ได้ใช้รองพื้น และทาอีกครั้งก่อนนอน ถ้าทาแล้วรู้สึกว่ามันๆ แสดงว่าใช้มากเกินไป Emu oil นั้นจะซึมลงผิวได้ในเวลา 90 วินาทีและซึมลงไปได้ลึกถึง 7 ชั้นของผิวหนัง ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนทำได้แบบนี้ ครีมและโลชั่นทั้งหลายจะแค่เคลือบอยู่แค่บนผิว ผิวที่ไหม้่จากแดดก็จะใช้ emu oil ช่วยบรรเทาอาการ ลองเซิร์สในกูเกิ้ลดูแล้วจะพบความมหัศจรรย์ของ emu oil ลองดูสิ คุณจะไม่ผิดหวังแน่ มันไม่อุดตันรูขุมขน และไม่ทำให้เสืิ้อผ้าเป็นคราบ ลองคิดดูสิว่าคุณจะลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อครีมลดริ้วรอยแพงๆที่ใช้ไม่ได้เรื่องได้มากแค่ไหน
ชั้นพนันได้เลยว่าคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Skinbiology เป็นประจำ ถ้าได้เพิ่ม Emu oil เข้าไปอีกตัว ผิวคุณจะต้องเห็นความแตกต่างแน่นอน ตัวนี้เป็นอะไรที่เจ๋งมาก (ฉันใช้เปลืองมาก อาทิตย์นึงก็หมดแล้ว อันนี้แหละที่ไม่ดีเลย) ฉันใช้ทาผิวที่ตัว ทาปาก ทาผมด้วยกล่าวกันว่า emu oil นั้นมีองค์ประกอบใกล้เคียงกับซีบั่มในมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลที่มันซึมลงผิวได้เร็วมาก และไม่ทำให้เป็นสิว ฉันอยากใช้ emu oil ของ skinbiology ที่ไม่เติมสารอื่นลงไปบ้างจัง
มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อเลย ฉันมีตัวอย่างผลิตภัณฑ์อยู่ 2 กระปุก แล้วก็ใช้ได้นานมากเลย ถ้ามันหมดฉันจะซื้อขนาดจริงมาใช้ ชอบที่ skinbiology เติมสารต้านอนุมูลอิสระลงไปด้วย ทำให้มันมีสีส้ม เหมือนสีไข่แดงนะ น่าจะมาจากสาร CoQ10 เราใช้แค่ปริมาณเล็กน้อย ตบๆลงไปที่ผิวมันก็ทำงานได้เพียงพอแล้ว ฉันใช้โดยการหยดลงที่นิ้วมือ ถูนิ้วมือทั้งสองข้างด้วยกัน แล้วตบๆลงไปที่ผิว แค่นี้ก็ทำให้ผิวผุดผ่องได้แล้ว
ฉันใช้ Emu oil ทารอบดวงตา หลังจากที่แพทย์ผิวหนังบอกฉันว่ามันจะช่วยให้ผิวหนังหนาขึ้นได้ ผิวหนังรอบดวงตานั้นบางมาก และ Emu oil ช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ฉันเลยใช้ Emu oil ทารอบดวงตา แล้วใช้ jojoba oil ทาทั่วหน้าไม่ต้องใช้เยอะมากหรอก น้ำมันพวกนี้เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ดีต่อผิวหนังของคุณ
ฉันใช้ emu oil ร่วมกับตัวบำรุงอื่นๆที่มีอยู่ เพราะว่ามันช่วยผลักสารต่างๆลงไปที่ชั้นผิวได้ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทาร่วมกันนั้นลงไปในชั้นผิวที่ลึกยิ่งขึ้น ฉันจะผสม emu oil สัก 2-3 หยดลงในผลิตภัณฑ์ตัวอื่นที่ใช้อยู่ ทำให้ทาซึมลงผิวได้ง่ายขึ้น ไม่ทำให้อุดตัน
ฉันซื้อ Emu oil มาใช้ หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาแล้วแทบทุกอย่าง ไม่่ว่าจะแพงสุดอย่าง Creme de mere ไปยัน Oil of olay พอได้ศึกษาข้อมูลของ Emu oil ที่มีคุณสมบัติชลอความชรา มันช่วยเพ่ิมความหนาของชั้นผิวหนังได้ถึง 14% เลิฟมากๆฉันเป็นคนผิวแห้งและแพ้ง่าย ถ้ามีใครหอมแก้มฉันละก็ จะมีรอยระคายเคืองจากเมคอัพขึ้นมาเลย แต่ emu oil นี่ไม่ทำให้เป็นสิวนะ ราคาก็ไม่แพง รวมค่าส่งแล้ว ตอนนี้ฉันดูอ่อนกว่าวัยไปเป็นสิบปี ชอบจริงๆ
ฉันจะเก็บ emu oil ในตู้เย็น เวลาที่มันอยู่ในอุณหภูมิห้อง มันจะเป็นสีเหลืองใสๆ และมีกลิ่นหืนๆเหมือนน้ำมันอื่นๆ แต่ตอนที่ฉันซื้อที่ร้านเค้าเก็บในคูลเลอร์ฉันจะค่อยๆรินน้ำมันออกมาทีละนิดใส่ไว้ในแก้วเล็กที่ได้เป็นของตัวอย่างมา แล้วก็จะใช้อยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยไม่แช่เย็น คือฉันว่าถ้าทา emu oil ตอนที่มันยังไม่ละลาย เราจะกะปริมาณในการทาได้ยากใช้ 2-3 หยดตอนกลางคืน หลังจากเช็ดโทนเนอร์ และก่อนที่จะทาเรตินอลครีมฉันจะหยดน้ำมันหอมระเหย (ใน jojoba oil) ใส่ในแก้วที่แบ่ง emu oil ไว้ด้วย เพื่อให้กลิ่นมันดีขึ้น ฉันว่า emu oil มันจะมีกลิ่นหน่อยๆ แต่สักพักก็หายไปฉันชอบ emu oil มากกว่า jojoba oil แต่เวลาที่ emu oil หมด ฉันก็จะยังใช้ jojoba oil ไปพลางๆก่อน
ไม่ทำให้เป็นสิว ตะลึงไปเลยตอนที่ลองใช้เมื่อปีก่อน ตอนนี้ก็หน้าหนาวอีกแล้วเลยหยิบออกมาจากตู้ บอกได้เลยว่าเป็นตัวที่ดีที่สุดที่ช่วยทั้งป้องกันและรักษาผิวแห้งๆ ผิวระคายเคือง และผิวแตกช่วงหน้าหนาว emu oil ช่วยบรรเทาได้มาก ฉันจะใช้สำลีแผ่นชุบแล้วทา โดยสำลีต้องเปียกหมาดๆ แล้วก็ทาไปเลยทั้งหน้าและคอ มันจะรู้สึกแบบว่า อิ้ววว เหมือนเอาน้ำมันไก่มาทาหน้าเลย เหอๆๆ กลิ่นจางๆของมันจะค่อยๆหายไป แฟนฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทาไว้ แต่หน้าจะเยิ้มเลยแหละ ก็เลยลองอีกเจ้านึงที่เป็นแบบน้ำมันใส กลิ่นน้อยกว่า มันน้อยกว่า ถ้าหาได้นะ แต่ผลที่ได้ก็ดีกับผิวใกล้เคียงกัน ฉันชอบ emu oil ของ skinbiology ที่เค้ามีเติมวิตามินอีลงไปด้วยน่ะ รู้สึกได้เลยว่าผิวผ่อนคลายขึ้นเวลาที่ได้ใช้
ที่จริงมันก็เป็นอะไรที่เร็วไปที่จะบอกว่าใช้เป็นยังไงนะ แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันชอบมันล่ะ! ใช้มาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ทาบริเวณที่เป็นผิวแห้ง ทาทั่วหน้าบ้างบางครั้ง ฉันเป็นคนที่เป็นสิวได้ง่าย แต่ก็ไม่เป็นสิวนะ ส่วนใหญ่แล้วจะทารอบปาก เพราะเป็นบริเวณที่ทา Differin แล้วผิวจะแห้ง บางครั้งก็ที่แก้ม เพื่อเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น .. ก็นุ่มขึ้นแล้วนะ (อันที่จริงแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยชอบทาครีมบำรุงผิวหรอกนะก่อนหน้านี้) ราคาของมันก็ค่อนข้างสูง แย่เลย แต่ก็คุ้มค่าล่ะ แล้วก็… ไม่เห็นมีกลิ่นเลยเพิ่มเติม : นี่ก็ใช้มาได้ประมาณนึงแล้ว ยังให้ผลดีอยู่เหมือนเดิม ไม่มีกลิ่น และทำให้ผิวนุ่ม สังเกตุได้ว่าตั้งแต่ใช้มานี่ ผิวดูจะผลิตน้ำมันน้อยลง เยี่ยมมาก!!
ฉันไม่ค่อยเห็นรีวิวของ emu oil ฉันก็เลยอยากจะเพิ่มรีวิวอีกสักอันซึ่งฉันใช้แล้วดีมาก ว่ากันว่า Emu oil นัั้นช่วยป้องกันการอักเสบ, เยียวยาบาดแผล และลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น หลายคนเชื่อมั่นในการใช้เพื่อเยียวยาโรคสะเก็ดเงินและโรคเรื้อนกวาง แพทย์บางคนแนะนำให้ใช้ทาผิวไหม้จากการทำเลเซอร์ ก็ไม่รู้ว่านักวิทยาศาสตร์รู้มั้ยว่าทำไม emu oil ถึงได้มีประโยชน์มากนัก แต่หลายๆคนรู้ฉันใช้ทากลางคืนเป็นลำดับสุดท้ายทุกคืน ทาตามหัวเข่า และข้อศอกทุกวันเพื่อให้ผิวบริเวณนั้นนุ่มนิ่ม ฉันยังใช้วันละประมาณ 3 ครั้งหลังการลอกผิวด้วย TCA มันช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วมาก ถ้าหมาฉันมีผิวแห้งแตก หรือเป็นผื่นแพ้ ก็จะเอา emu oil ทาให้ เคยอ่านเจอที่ไหนก็ไม่รู้ว่า emu oil มีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมนุษย์ ก็แปลกดีเหมือนกัน รู้ก็แค่ว่ามันเป็นอะไรที่ช่วยรักษาผิวได้วิเศษมาก
ฉันเลิฟตัวนี้มาก ฉันว่ามันอเมซิ่งนะ ฉันซื้อ emu oil มาใช้เพราะได้ยินมาว่ามันซึมลงผิวได้ลึกกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป และใช้เป็น Tanning lotion ได้ เพื่อให้ได้สีแทนที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น เคยลองใช้ทาก่อนทำผิวสีแทนครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ได้นึกถึงมากนัก คือเอามาทาอย่างพิถีพิถันก่อนที่จะเข้าไปที่ sunbed แต่เป็นเพราะไม่มีเวลามากพอที่จะนวดให้มันซึมลงผิวก่อนที่จะเข้า sunbed ก็เลยเสียไปเปล่าๆ แล้วก็ผิวไหม้ คืนนั้นก็เลยเอา emu oil มาทาซ้ำอีก เพราะเคยอ่านว่ามันช่วยเยียวยาผิวไหม้แดดได้ ตื่นเช้ามาผิวที่แดงเบิร์นก็หายไป ประทับใจมาก ฉันก็เลยทา emu oil ที่ผิวหน้าทุกคืน ไม่ก็ทุกครั้งที่อาบน้ำ และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็สังเกตุเห็นความแตกต่างที่ผิวได้เลย ผิวโดยรวมดูดีขึ้น กระจ่างใสขึ้น เนียนเรียบขึ้น นุ่มและชุ่มชื้นขึ้น ฉันมีปัญหาเรื่อง rosacea ด้วย emu oil ช่วยทำให้อาการ rosacea สงบลงใช้ทาริมฝีปากก่อนลงลิปบาล์มก็แจ๋ว ช่วยให้ปากดูอิ่มเอิบ แวววาว ไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนพวกลิปกลอสด้วย บางวันฉันก็ทา emu oil ก่อนลงมอยส์เจอร์ฯ คนที่รีวิวกันเอาไว้ว่า emu oil นั้นไม่ซึมลงผิวหรืออะไรก็ตามแต่ น่าจะใช้ปริมาณมากเกินไป ใช้แค่ครั้งละ 1-2 หยดก็ทั่วหน้าแล้ว ขอแนะนำตัวนี้จริงๆ
emu oil นี่ใช้ได้ดีกับแผลเป็นที่ผิวของฉัน มันช่วยเยียวยาและหายได้เร็วยิ่งขึ้น ฉันใช้คัตตอนบัดจุ่มแล้วทา แค่เพียงนิดเดียวให้เห็นว่าทาลงไปตรงไหนก็พอ ฉันลองทาที่ผิวหน้าแล้ว แต่ทาไป2-3 วันก็ไม่เห็นมีอะไร เลยเลิกทาไป ช่วงฤดูหนาวตัวนี้จะเวิร์คมากๆ ผิวตรงไหนแห้งก็เอามาทาๆ ก็ใช้คัตตอนบัดเหมือนเดิม พอวันต่อมาจะเห็นได้เลยว่าผิวที่แห้งนั้นดีขึ้น เค้าน่าจะใส่เป็นขวดเป็นดรอปเปอร์เหมือนพวก copper serum นะ มันน่าจะใช้ง่ายกว่า
ทีแรกชั้นก็ไม่เต็มใจที่จะลองใช้ emu oil กับผิวมันมากของชั้นหรอกนะ แต่พอลองแล้ว มหัศจรรย์มาก (ของ skinbiology)ใช้แล้วไม่ทำให้เป็นสิวเพิ่มขึ้นเลย แถมยังช่วยทำให้ผิวผ่องด้วย หลังจากใช้ไปได้ 10 วันก็เห็นความเปลี่ยนแปลงได้เลย ชั้นใช้เกือบทุกวันนะ (วันละครั้ง) ผ่านไป 8 เดือน ยังเหลืออีกประมาณ 75% ของขวด 2oz. ราคาก็อยู่ราวๆ $30 ใช้ได้นานประมาณ (ก็ขึ้นอยู่กับว่าทาวันละกี่ครั้ง และทาส่วนไหนของร่างกายบ้าง) 2 ปีละมั้ง ใช้ทาแทนครีมรอบดวงตาก็เวิร์ค หรือจะทาทับครีมรอบดวงตาที่ใช้อยู่ก็ได้ชอบค่าาา!!
ฉันซื้อ emu oil มาจาก skinbiology มันช่วยอาการผิวแห้งแตกของฉันได้มากจริงๆ ยิ่งตอนนี้อากาศเย็นขึ้น ก็ต้องกลับมาใช้ emu oil อีก ฉันจะใช้ทาตอนกลางคืนเพื่อบรรเทาผิวที่ระคายเคือง แต่ว่าบางทีก็เอามาใช้ทาตอนกลางวัน ในวันที่ผิวแห้งมากๆ แต่หลายๆครั้งก็รู้สึกว่ามันหนักเกินไปที่จะใช้ตอนกลางวัน
ซื้อมาขวดนึงอยู่ได้ตั้งนาน ถือเป็นการลงทุนที่ถูกนะ ฉันกับสามีใช้แล้วชอบมาก สามีอายุ 37 ส่วนฉันอายุ 28 ความที่สามีไม่เป็นคนผิวแพ้ง่ายก็เลยลองให้เค้าใช้ก่อน มันอเมซิ่งมากที่ emu oil ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตากับที่หน้าผากเค้าได้ ใช้ไปแค่ครึ่งขวดก็เห็นได้เลยว่าดีขึ้นทุกๆวัน และตอนนี้เค้าเลิกสูบบุหรี่แล้วด้วย ก็เลยเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ผิวได้ชัดเจน เค้าชอบมัน ฉันใช้แทนมอยส์เจอร์และมันดีกว่าตัวอื่นๆที่เคยใช้มา ฉันเริ่มมีริ้วรอยรอบดวงตา และตัวนี้ช่วยบำรุงได้ทั้งหน้าเลย อยากแนะนำตัวนี้แหละ อย่างน้อยก็ควรลองก่อนที่จะคิดว่ามันไม่ดี ยิ่งถ้าคุณใช้ mineral makeup ตัวนี้จะเป็นเหมือนเบสให้เป็นอย่างดี และจำไว้ว่า ใช้แค่เพียงเล็กน้อย แล้วก็ถูให้ซึม ใช้ง่ายจะตายไป
ตัวนี้ถือเป็น ตัวที่ช่วยชีวิตฉันเลย ฉันเคยไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ แล้วก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าทาที่หน้าให้ฉัน ปรากฎว่าสิวบุกอย่างหนัก ก็เลยใช้ emu oil ทาเพื่อบรรเทาอาการ แล้วก็อีกทีนึงเมื่อตอนที่ใช้มาส์ก Queen Helene mint julep แบบว่าใช้อย่างไม่คิดอะไรเลย ก็ใช้ emu oil เนี่ยแหละช่วยบรรเทาอาการสิวเห่อ และบริเวณที่ผิวแห้งจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณใช้ทาที่หน้าฉัน (ฉันว่า นางคงเข้าใจว่า Rosacea ที่ว่านี้เป็น สิว Rosacea ก็เลยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับคนเป็นสิวทาให้ฉัน อยากจะบ้า!) ฉันไม่ได้ใช้ emu oil ทุกวัน แต่จะใช้เพื่อบรรเทาอาการสิวเห่อ และมันช่วยได้มากเลย
ตอนนี้ฉันได้ใช้ Emu oil และผลที่ได้รับนั้นยอดมาก ฉันเป็นคนผิวแห้งมาก และมีเชื้อ rosacea คืออาการจะกำเริบได้ง่าย ฉันใช้ emu oil ทาทุกคืนก่อนนอน นั่นทำให้ผิวดีขึ้นมากมาย ไม่แห้งแตก ไม่คันอีกเลย ผิวหน้าเนียนนุ่มทุกครั้งที่ตื่นมา มั่นใจที่จะใช้ต่อไปแน่นอน
ฉันใช้ emu oil มาซักพัก ร่วมกับการทา CP serum และรู้สึกว่าชอบมาก ปกติแล้วฉันเป็นคนผิวมันมาก แต่พบว่าหลังจากใช้อันนี้แล้วผิวมันน้อยลง เกือบเป็นปกติทั่วไปเลย ผิวดูเปล่งปลั่ง เหมือนว่าระหว่างวัน ผิวผลิตน้ำมันน้อยลงจากเมื่อก่อน ไม่เป็นสิวเพิ่ม ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยเป็นอยู่แล้ว วิธีใช้ก็คือจะทาและนวดด้วย emu oil เพียงบางๆเฉพาะก่อนนอน ทิ้งไว้สักพักให้มันซึมลงผิว จากนั้นก็ใช้ CP serum 1 หยดทาให้ทั่วหน้า ก็จะซึมลงไปที่ผิวทั้งหมดเลย เวลาตื่นมาตอนเช้า รู้สึกว่าผิวนวลเนียนเหมือนกำมะหยี่ ตอนที่ทาถ้ามีเหลือก็ถูไปมาที่มือ ผิวที่มือก็เลยดีขึ้นด้วย ขวดไม่ค่อยสวยเลย ฝารั่วด้วย แต่ถือว่าเป็นการลงทุนกับผิวหน้าที่ประหยัดมากและได้ผลดี ดังนั้นก็จะไม่บ่นมากสำหรับเรื่องนี้
ความที่เป็นคนผิวมันก็เลยไม่กล้าที่จะทาไปที่หน้า แต่ทาแค่ที่คอ และรอบดวงตา ใช้แล้วชอบมาก ไม่เป็นสิวเพิ่มด้วย มันเป็นเหมือนแวกซ์ที่เคลือบไว้คล้ายๆกับ jojoba ที่ไม่มันเยิ้ม และช่วยทำให้เนื้อผิวดูเรียบเนียน เหมือนซิลิโคนเคลือบ ถ้าหากใช้เกินกว่า 1 หยดก็จะมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องระวังไม่ทามากเกินไป
emu oil นั้นถือเป็นมอยส์เจอร์ที่ดีที่สุดที่เคยพบมา ลองมาหลายอย่างแล้ว ฉันเป็นคนผิวบอบบางมาก และนี่ถือเป็นมอยส์เจอร์เดียวที่ไม่ทำให้เป็นสิว ฉันใช้วิธีการเอาใส่ขวดสเปรย์เล็กๆ ผสมน้ำเล็กน้อย และเหยาะ lavender oil ลงไปหน่อย พ่นสเปรย์ emu oil ที่ผสมแล้วลงที่ผิว แล้วใช้สำลีแผ่นซับส่วนที่เกินออก เป็นอะไรที่เยี่ยมมาก หากว่าคุณเป็นมังสวิรัติ อาจไม่เหมาะเพราะมันทำจากนกอีมู แต่มันเป็นมอยส์เจอร์ที่เยี่ยมมาก
แม้ว่าการทา emu oil จะให้ความรู้สึกเหมือนทาน้ำมันพืชลงบนผิว แต่มันไม่ทำให้อุดตัน แก้ปัญหาสิวเก่าๆได้ดี และเป็นตัวช่วยให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆลงไปในผิวได้ดีขึ้น
emu oil เป็นมอยส์เจอร์ตัวโปรด ไม่มีไม่ได้เลย ฉันทาทั่วหน้าเลยตอนกลางคืน และเมื่อตื่นตอนเช้า ผิวที่เคยแห้ง คัน ก็กลายเป็นผิวที่เนียน นุ่ม แม้แต่เครื่องทำความร้อนก็ไม่ทำให้ผิวแห้งได้ ฉันเป็นคนเป็นสิวง่าย แต่นี่ก็ไม่ทำให้เป็นสิวเพิ่ม ใช้เป็นมอยส์เจอร์ในตอนเช้าก็ดี แต่ให้ใช้ในปริมาณแค่เมล็ดถั่วต่อการทาทั่วหน้า มันจะมีน้ำมันที่ิติดค้างอยู่ข้างในขวด เราก็ใช้คัตตอนบัดควักออกมาใช้ได้
ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ emu oil แม้ว่าจะมีหลายยี่ห้อที่ราคาถูกกว่าของ Skinbiologyของ Skinbiology นั้นได้เติมสารพวก CoQ10 และ 7-keto dhea แต่ฉันว่าคงไม่ได้ใส่มากมายอะไร แต่ตัวน้ำมันอีมูของที่นี้เจ๋งอยู่แล้ว ไม่ทำให้อุดตัน และช่วยให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทาร่วมกันซึมลงไปได้ลึกขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น ฉันเคยเอามาทารอยที่โดนบาดเล็กๆ และแผลถลอก มันช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นมาก ช่วงฤดูหนาวก็เอามาทาเป็นมอยส์เจอร์ก่อนแต่งหน้า แม้ว่าฉันจะเป็นคนผิวมันมากก็ตาม แต่น้ำมันนี้ไม่ทำให้หน้ามันมากขึ้น ผิวดูดีขึ้นกว่าตอนไม่ใช้
ตอนนี้ emu oil กลายเป็นผลิตภัณฑ์ตัวโปรดอันใหม่ของฉันไปแล้ว บำรุงและให้ความชุ่มชื้นได้ดีโดยไม่ทำให้เป็นสิวเพิ่ม เป็นตัวที่ควรต้องมีเลยสำหรับคนที่ผิวแห้งและยังเป็นสิว
emu oil นั้นถือเป็นมอยส์เจอร์ที่ทำให้ฉันประทับใจ ร่วมกับการใช้ CP serum ทำให้ผิวฉันเนียนนุ่มขึ้น ชอบที่เป็นน้ำมันที่ทาได้ง่าย ไม่อุดตันรูขุมขน แล้วก็ไม่ทำให้เป็นสิว
ฉันชอบน้ำมันนี้มาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้ำมันนี้จะได้มาจากนกหน้าเหมือนนกกระจอกเทศนี แต่ก็นะ ฉันจะใช้ emu oil ทาตามหลังการทา CP serum ในตอนเช้า แล้วก็ตอนกลางคืนจะทาทับ Protect & Restore cream ตื่นมาตอนเช้าจะเห็นได้เลยว่าผิวนุ่มขึ้นมากๆ ฉันจะใช้ทาที่มือด้วย ก็ไม่ทำให้มันเยิ้ม ชอบจริงๆ ฉันเป็นคนผิวแห้งนะ และเมื่อใช้ไปราวๆ 3 สัปดาห์ รู้สึกได้เลยว่าไม่จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงผิวประจำวันอีกต่อไป ผิวก็ไม่ตึง ฉันต้องซื้อใช้ต่อไปแน่นอน และคิดว่าจะเอามาทาผิวตัวในช่วงหน้าร้อนด้วย
เป็นน้ำมันที่ให้การหล่อเลี้ยงผิวได้ดีมาก ไม่ทำให้เป็นสิว และดูดซึมลงผิวได้โดยไม่ทิ้งความมันเยิ้มไว้ (ถ้าไม่ใช้เยอะไปนะ) ใช้นิดหน่อยเองในแต่ละครั้ง เวลาที่ต้องการความชุ่มชื้นที่มากกว่าการทามอยส์เจอร์กลางคืน ก็จะใช้ตัวนี้เพิ่มมากขึ้น